รายงานการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ ๓๔/๒๕๕๓
ณ วัดวชิรธรรมปทีป ลองไอส์แลนด์ มหานครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันที่ ๒๔-๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓
……
เวลา ๐๘.๐๐ น. สมาชิกสมัชชาสงฆ์ไทยฯลงทะเบียนรับเอกสารการประชุม
เวลา ๐๘.๔๕ น. สมาชิกทุกรูปพร้อมกันในที่ประชุม
ดร.พระมหาถนัด อตฺถจารี เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยฯ เป็นพิธีกรดำเนินการประชุม
เวลา ๐๙.๐๐ น. ประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ พระธรรมโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ จุดธูปเทียน
นำบูชาพระรัตนตรัย
– ผู้เข้าร่วมประชุมถวายความเคารพ
– พระเทพกิตติโสภณ เจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมปทีป กล่าวต้อนรับ
– ประธานจัดงานฝ่ายฆราวาส กงสุลใหญ่ คุณพิริยะ เข็มพล กล่าวปวารณาต่อสงฆ์
– เจ้าหน้าที่ The Honorable Mr. Steve Levy (Welcome Speech) รับของที่ระลึก
-ประธานสมัชชาสงฆ์ไทยฯถวายรายงานต่อประธานที่ประชุม
– ประธานในพิธีให้โอวาท และกล่าวเปิดการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ ๓๔/๒๕๕๓
– ฯพณฯ ดอน ปรมัตถ์วินัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวสุนทรพจน์
รับของที่ระลึก
– ดร.พระมหาถนัด อตฺถจารี เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยฯ กล่าวแนะนำพระมหาเถระ
และแขกผู้มีเกียรติผู้เข้าร่วมประชุมตามลำดับประเทศ และวัดต่าง ๆ ในสมาชิก
สมัชชาสงฆ์ไทยฯ
พระธรรมโมลี เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ รองอธิการบดี ม.มจร.วิทยาเขตสุรินทร์
ประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์กล่าวเปิดประชุม
“กระผมรู้สึกดีใจได้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ฟังรายงานผลงานของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา เห็นพระสงฆ์ธรรมทูตผู้ปฏิบัติงานตามที่ต่างๆ เข้าร่วมงานอย่างฉันท์พี่ฉันท์น้อง มีความเป็นเอกภาพ พระธรรมทูตทุกระดับมาชุมนุม ณ ที่นี่ ตั้งแต่รุ่นพระวิเทศธรรมรังษี (หลวงตาชี) แม้อายุจะมากแล้วแต่ยังคงครองชีวิตพระธรรมทูตเป็นหลักให้อนุชนรุ่นหลังได้ดำเนินรอยตาม
นอกจากนี้ยังมีพระธรรมทูตอีกมากมายหลายรูป ได้ทุ่มเทชีวิตของท่านเพื่อประกาศเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามจุดต่างๆ ทั่วโลก ทำให้จำนวนพระธรรมทูตเพิ่มขึ้น พุทธศาสนิกชนและผู้สนใจใฝ่ศึกษาพระพุทธศาสนาเพิ่มจำนวนขึ้นเช่นกัน
การสร้างพุทธารามขึ้นในต่างประเทศนี้ นอกจากเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธแล้ว ยังได้เป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามแก่เด็ก เยาวชน ตลอดถึงผู้สนใจทั่วไป การสร้างวัดที่เมืองไทยต้องมีที่ดิน ๖ ไร่ขึ้นไป แต่ในต่างประเทศตั้งเป็นสมาคมบำเพ็ญประโยชน์ ณ ดินแดนสหรัฐอเมริกาในวันนี้ มีวัดจำนวนถึง ๙๒ วัดแล้ว จากผลงานของพระธรรมทูตไทยที่ได้สร้างวัดในช่วงเวลาสามสิบกว่าปีตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจยิ่ง
ขอชื่นชมยินดีในความรักสามัคคีของทุกฝ่าย ทั้งพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ขออำนวยพรให้การประชุมจัดงานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี”
• ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดประชุม
ฯพณฯ ดอน ปรมัตถ์วินัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน กล่าวสุนทรพจน์ สรุปความได้ว่า “มีความซาบซึ้งใจอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานพิธีท่ามกลางสังฆสภา ที่มีพระสงฆ์จาริกมาจากทั่วโลก จากพลังแห่งศรัทธาในการทำงานพระพุทธศาสนา เป็นองครักษ์พิทักษ์พระพุทธศาสนา ทำให้การเผยแผ่พระพุทธศาสนา อยู่เป็นหลัก ณ ศูนย์พระพุทธศาสนากระจายไปตามเมืองต่างๆ ทั่วโลก นี่คือโจทย์หลักของพระธรรมทูต
ส่วนโจทย์รอง คือ วิกฤตเกิดขึ้นที่ประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ เสียงธรรมและพระพุทธศาสนานำมาเยียวยาวิกฤตที่เกิดขึ้นให้เข้าสู่ภาวะปกติได้แน่นอน
ขอฝากความเห็นจากการได้พบปะกับอาจารย์ชาวอเมริกัน (ซิด ยัง) ลูกของท่านผู้ค้นพบวัตถุโบราณที่บ้านเชียงบอกว่า คณบดีท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ต้องการจัดตั้งสถานที่สำหรับการศึกษาพระพุทธศาสนาเถรวาท มีพระสงฆ์จากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมดำเนินงาน
ฯพณฯ เอกอัครราชทูตได้เสนอแนะว่า เรามีวัดเป็นศูนย์ของพระพุทธศาสนาเถรวาทไทยแล้ว จะดำเนินการอย่างไรให้เจ้าของประเทศเขายอมรับและมีความคุ้นเคยมากยิ่งขึ้น
หากสร้างความรักผูกพัน ให้คนท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ให้วัดและหรือศูนย์พระพุทธศาสนาเป็นแหล่งพักพิงแก่ผู้คน อำนวยเป็นประโยชน์แก่สังคมแล้ว ย่อมสร้างความยั่งยืนมั่นคงของพระพุทธศาสนาในดินแดนแห่งนี้
อีกประเด็นหนึ่ง มีคำกล่าวว่า “ฝืนกระแสโลกได้ ถือว่าเดินตามรอยบาทพระศาสดา” ท่ามกลางกระแสโลกในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงตรัสเกี่ยวกับ “เศรษฐกิจพอเพียง” แม้ว่าจะถูกมองว่าขัดกับวิชาเศรษฐศาสตร์ แต่เป็นการให้แนวทางแก้ปัญหาแก่ชีวิตผู้คนในยุคปัจจุบัน เป็นคำตอบให้ผู้คนได้ดำเนินชีวิตที่ลงตัว
ขอกราบขอบพระคุณพระมหาเถระ พระสงฆ์เถรานุเถระทุกรูป และพี่น้องพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ได้มีส่วนร่วมในการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ขอให้การประชุมและงานพิธีการพัทธสีมาครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี”
หลังจากที่ ฯพณฯเอกอัครราชทูต กล่าวสุนทรพจน์จบแล้ว ได้เข้าถวายมุทิตาสักการะแด่พระเดชพระคุณพระเทพกิตติโสภณ ประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ในโอกาสทำบุญอายุวัฒนมงคลด้วย และถวายปัจจัยบำรุงสมัชชาสงฆ์ไทยฯ จำนวน ๓,๐๐๐ เหรียญสหรัฐฯ จากนั้นเข้ารับของที่ระลึกจากท่านประธานสมัชชาสงฆ์ไทยฯ ตามลำดับ
พร้อมกันนี้ พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช-วิทยาลัย มอบของที่ระลึกในนามมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แด่ ฯพณฯเอกอัครราชทูต ในโอกาสนี้ด้วย
• เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองกล่าวต้อนรับ
พระมหาถนัด อตฺถจารี เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำประวัติและกล่าวเชิญ Mr. Steve Levy Suffolk County Executive เป็นผู้กล่าวต้อนรับคณะพระสงฆ์และแขกผู้มีเกียรติในการประชุมครั้งนี้ ในนามเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ทำงานในเขตพื้นที่ของ Suffolk County ซึ่งมีวัดวชิรธรรมปทีปตั้งอยู่
Mr. Steve Levy ได้แนะนำ Suffolk County แก่ผู้เข้าร่วมงานย่อๆ ดังนี้ ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยฯ ประจำปีนี้ ทางรัฐบาลมีความยินดีที่จะเปิดโอกาสให้ผู้คนที่หลากหลาย มีความเชื่อศรัทธาตามหลักศาสนา ประเพณีของตนอยู่กันอย่างสงบสุข มีมิตรภาพ พร้อมได้แสดงความชื่นชมที่พระธรรมทูตไทย นำโดยพระเดชพระคุณ พระเทพกิตติโสภณ ได้นำพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้สร้างความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชุมชนนี้
พร้อมนี้ Mr. Steve Levy ได้น้อมถวายประกาศเกียรติคุณจาก County แด่พระเทพกิตติโสภณ ในฐานะผู้นำชาวพุทธที่สร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนไทยในเขตนี้ และจากนั้นพระเดชพระคุณพระเทพกิตติโสภณได้มอบของที่ระลึกแก่ Mr. Steve ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
จากนั้นเป็นพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จำลอง เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ของวัดวชิรธรรมปทีปตั้งแต่ยุคเริ่มสร้างวัดใหม่ ได้แห่เข้าประดิษฐาน ณ อุโบสถหลังใหม่ วัดวชิรธรรมปทีป ท่ามกลางสังฆสภา พร้อมกันเจริญชัยมงคลคาถาของพระสงฆ์ทั้งนั้นจำนวน ๒๕๖ รูปในพิธีเปิดประชุม
• แนะนำผู้เข้าร่วมประชุม
พระมหาถนัด อตฺถจารี เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาได้แนะนำพระมหาเถระ พระเถระผู้ใหญ่ ที่เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์จากประเทศไทย จากประเทศในยุโรป และโอเซียนเนียร์ ผู้แทนจาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬา-ลงกรณราชวิทยาลัย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งท่านผู้มีเกียรติฝ่ายคฤหัสถ์จากทั่วโลกที่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมในวันนี้
หลังจากนั้นได้ขานชื่อวัดสมาชิกสมัชชาสงฆ์ไทยฯ ตามลำดับที่ ๑-๙๑ วัดตามลำดับปีที่สร้างวัด เพื่อให้ประธานสงฆ์/เจ้าอาวาส หรือผู้แทนแต่ละวัดได้รายงานตัวในการเข้าร่วมประชุม และบอกจำนวนพระสงฆ์ที่อยู่ประจำพรรษาของวัดนั้น และจำนวนพระธรรมทูตที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้