วันเสาร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาและพระธรรมทูตทั่วโลก ร่วมพิธีสามีจิกรรมแก่พระมหาเถระในเทศกาลเข้าพรรษา
พระธรรมทูตทุกทวีปทั่วโลก ร่วมพิธีแสดงสามีจิกรรมแด่ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในเทศกาลเข้าพรรษา ผ่านโปรแกรมซูม โดยเจ้าประคุณสมเด็จฯ มอบหมายให้พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรโมลี รองประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา รับสามีจิกรรมแทน โดยมี พระญาณวชิรวงศ์ เลขานุการสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นพิธีกรดำเนินรายการ มีพระธรรมทูตร่วมพิธีผ่านระบบโปรแกรมซูม จำนวน ๑๙๙ รูป.
เวลา ๒๐.๓๐ น.ประธานในพิธีเข้าสู่ระบบซูม
– นําบูชาพระรัตนตรัย
– พระญาณวชิรวงศ์ เลขานุการประธานสํานักงานกํากับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ถวายรายงาน
– สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา โดยพระวิเทศรัตนาภรณ์ เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยฯ ถวายรายงาน
– สหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป โดย เลขานุการองค์กร ถวายรายงาน
– องค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ โดย พระมหาภาสกร ปิโยภาโส เลขาธิการ ถวายรายงาน
– สมัชชาสงฆ์ไทยในประเทศสิงคโปร์ โดยพระครูอุดมธรรมวิเทศ รองประธานรูปที่ ๒ ถวายรายงาน
– ประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในโอเชียเนีย โดย พระกิตติโสภณวิเทศ ประธานฯ ถวายรายงาน
– พระธรรมทูตไทย สายประเทศอินเดีย-เนปาล โดยพระศรีโพธิวิเทศ วัดไทยลุมพินี ถวายรายงาน
– สมัชชาสงฆ์ไทยในฮ่องกง โดยเลขานุการ ถวายรายงาน
– สหภาพพระธรรมทูตไทยในเอเชียตะวันออก โดยเลขานุการ ถวายรายงาน
– สหภาพพระธรรมทูตไทยในอินโดนีเซีย-แอฟริกา โดยเลขานุการ ถวายรายงาน
– สมัชชาสงฆ์ไทยในญี่ปุ่น โดยประธานองค์กร ถวายรายงาน
– ผู้แทนคณะสงฆ์กล่าวแสดงสามีจิกรรม โดย พระราชวิเทศปัญญาคุณ ประธาน WBDO และองค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์
– พระเดชพระคุณ พระธรรมวชิรโมลี รองประธานสำนักงานกำกับฯ รูปที่ ๑ ประธานพิธีกล่าวให้โอวาท
– สนทนาปราศัย ตามอัธยาสัย
– กราบลาพระรัตนตรัย
– เป็นเสร็จพิธ
พิธีทำสามีจิกรรม
สามีจิกรรม หมายถึง การขอขมาโทษกัน ให้อภัยกัน ทุกโอกาสไม่ว่าจะมีโทษขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม โอกาสควรทำสามีจิกรรมนั้นเพื่อความสามัคคีกัน อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข การทำความชอบนี้เป็นไปตามอาวุโส(ผู้ใหญ่) ภันเต (ผู้น้อย) ตามพระวินัยนิยมบรมพุทธานุญาตไว้ เป็นธรรมเนียมของสงฆ์อย่างหนึ่งที่ภิกษุสามเณรพึงทำความชอบต่อกัน โดยนิยมมีดังนี้
๑. ในวันเข้าพรรษา ทั้งภิกษุและสามเณรที่ร่วมอยู่วัดเดียวกันควรทำสามีจิกรรมต่อกัน เรียงลำดับตั้งแต่ผู้มีอาวุโสมากที่สุด ถึงสามเณรรูปสุดท้ายในวัด ไม่ควรเว้นเพื่อความสามัคคีพร้อมเพรียงกันในวัดที่ตนจำพรรษา
ธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับที่ทำกันในวันเข้าพรรษา บางวัดทำหลังจากเจริญพระพุทธมนต์ (เช่นวัดไทยกรุงวอชิงตัน,ดี.ซี.) จบแล้วก่อนออกจากโรงอุโบสถ สำหรับวัดที่มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษาไม่มากนักควรทำร่วมกันทั้งวัดให้เสร็จภายในโรงอุโบสถในวันเข้าพรรษานี้ ทำเรียงตามลำดับอาวุโสจากพระสังฆเถระลงมาจนถึงสามเณรรูปสุดท้าย ถ้ามีจำนวนมาก จะแบ่งทำร่วมกันเฉพาะต่อท่านผู้มีพรรษาพ้นสิบซึ่งเป็นพระเถระท่านนั้นก่อนในโรงอุโบสถ นอกนั้นแยกกับไปทำตามกุฏิโดยอัธยาศัยก็ได้การทำร่วมกันในโรงอุโบสถเป็นการแสดงหน้าที่ผู้ใหญ่ผู้น้อย และแสดงความสามัคคีในหมู่คณะ มีระเบียบที่จะพึงปฏิบัติ ดังนี้
ก. ผู้รับขมาโทษ นั่งพับเพียบหันหน้ามาทางผู้ขอขมา เมื่อผู้ขอขมากราบเริ่มประณมมือรับ
ข. ผู้ขอขมาโทษคุกเข่ากราบพร้อมกัน ๓ ครั้ง เฉพาะรูปที่เป็นพระสังฆเถระและเจ้าอาวาส
ค. กราบแล้ว ยกพานเครื่องสักการะขึ้นประคองแต่อกน้อมกายลงเล็กน้อย กล่าวคำขอขมาตามแบบของวัดนั้นพร้อมกัน (ตามแบบนิยม มหาเถเร ปมาเทนะฯ )
ฆ. เมื่อผู้รับขมากล่าวคำอภัยโทษตามแบบแล้วผู้ขอทั้งหมดรับคำให้อภัยตามแบบพร้อมกันด้วยอาการยกพานเครื่องสักการะขึ้นในท่าจบนิดหน่อย (เฉพาะที่ทำต่อพระสังฆเถระหรือเจ้าอาวาส วางพานเครื่องสักการะลงตรงหน้าแล้วกราบอีก ๓ ครั้ง ในบางแห่งท่านปฏิบัติกันอย่างนี้)
ง. เสร็จจากรูปหนึ่งแล้วทำกับอีกรูปหนึ่ง โดยวิธีดังกล่าว ต่อเนื่องกันไปจนถึงสามเณรรูปสุดท้าย เป็นอันเสร็จพิธีสามีจิกรรมในโรงอุโบสถวันนี้
๒. ในเทศกาลวันเข้าพรรษา เริ่มแต่วันเข้าพรรษาและหลังวันเข้าพรรษา ระยะเวลาประมาณ ๗ วัน ควรทำสามีจิกรรมต่อท่านที่เคารพนับถือ ซึ่งอยู่ต่างวัดโดยทั่วถึงกัน
๓. ในโอกาสจะจากกันไปอยู่วัดอื่นหรือถิ่นอื่น นิยมทำต่อผู้ท่านผู้มีอาวุโสกว่าตนในวัด และต่อท่านที่เคารพนับถือทั่วไป เป็นการลาจากกันทั้ง ๒ กรณีนี้ เป็นการทำสามีจิกรรม แบบขอขมาโทษ นอกจากนี้ยังมีสามีจิกรรมแบบถวายสักการะเป็นการแสดงมุทิตาจิตอีกแบบหนึ่ง นิยมทำต่อท่านที่ตนเคารพนับถือในโอกาสที่ท่านผู้นั้นได้รับอิสริยศักดิ์ หรือได้รับยกย่องในฐานันดรศักดิ์เป็นการแสดงจิตใจที่พลอยยินดีให้ปรากฏเพราะความมุ่งหมายและเหตุผลของการทำสามีจิกรรมมีดังกล่าว.
(ข้อมูลโดย พระวิเทศรัตนาภรณ์ เลขาธิการ)