พระธรรมทูตรุ่น 4 อายุ 54 พรรษา 24 เจ้าอาวาสวัดพุทธรักษา เมืองแกรนเบด์ รัฐอลาบาม่า
สังกัดวัดเดิม วัดบ้านเป้า จังหวัดอุบลราชธานี มาปฏิบัติศาสนกิจเมื่อ พ.ศ. 2542
ได้ถึงแก่มรณะภาพด้วยการถูกฆาตกรรม โดยพระเวิน พิศมัย (พระลาว) อายุ 32 พรรษา 12 ซึ่งเป็นพระลูกวัด และอยู่จำพรรษา
ประจำอยู่ที่วัดพุทธรักษามาไม่ตำกว่า 5-6 พรรษา ซึ่งในวันเกิดเหตุจากคำให้การของพระเวิน ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า
ได้มีการกระทบกระทั่งกันในครัว ซึ่งทั้งสองรูปกำลังเตรียมภัตตาหารเพล จนทำให้พระเวินเกิดโทสะคว้าไม้ตีพริก(สากกะบือ)
ตีไปที่ศีรษะของพระอาจารย์ชัยวัฒน์ จากนั้นมีการต่อสู้กันและวิ่งไล่กันออกมากภายในห้องโถงศาลาบริเวณหน้าพระประธาน
ในระหว่างนั้นทั้งสองก็ได้ต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงจนพระอาจารย์ชัยวัฒน์เพลี้ยงพล้ำ ถูกพระเวินกระหน่ำทุบที่บริเวณศีรษะ
แตกเลือดนองเต็มพื้นนอนคว้ำหน้าแน่นิ่งอยู่จมกองเลือดอยู่ ในระหว่างนั้นพระสีสะหวัน (พระลาวอีกรูปหนึ่งที่จำพรรษาอยู่ด้วยกัน)
ลงมาจากกุฎิมาถึงหน้าศาลามองผ่านกระจกเข้าไปด้านใน เห็นพระอาจารย์ชัยวัฒน์นอนคว้ำหน้าจบกองเลือดอยู่ ส่วนพระเวินเดินวนรอบ ๆ ร่างของผู้ตาย
โดยยังถือไม้ตีพริกอยู่ในมือ เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนั้นพระสีสะหวันเกิดความกลัวว่าจะโดนพระเวินตามมาทำร้าย จึงหนีไปที่กุฎิที่พักของแม่ชี
ปิดประตูล็อคแล้วยืมโทรศัพท์ของแม่ชีโทรไปหาประธานวัด คุณวิษณุ คำผุย (คนลาว) เพื่อแจ้งเหตุการณ์ให้ทราบ แต่ขณะนั้นประธานติดธุระมาไม่ทัน
จึงแจ้งไปที่ คุณบุญทัน พิศมัย (รองประธานคนลาวและมีศักดิ์เป็นลุงของพระเวิน) หลังจากแจ้งเหตุการณ์แล้ว พระสีสะหวันได้แอบดูจนกระทั้งแน่ใจว่า
พระเวินได้ออกไปจากที่เกิดเหตุแล้ว จึงรีบเข้าไปภายในศาลา พบอาจารย์ชัยวัฒน์นอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ จึงเข้าไปอุ้มแล้วพูดว่า “เป็นอย่างไรบ้างอาจารย์
ไหวไหม ๆ เดี๋ยวรถฉุกเฉินกำลังจะมา…” ได้ยินเพียงเสียงคราง อื้อ อื้อ ด้วยความเจ็บปวดจากปากของผู้ตาย จากนั้นกรรมการวัดก็มาถึงพร้อมกับการสิ้นใจของอาจารย์ชัยวัฒน์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงพร้อมกับกองทัพของนักข่าวท้องถิ่นก็ตามมาในเวลาไล่เรี่ยกัน เจ้าหน้าที่กันทุกคนออกจากที่เกิดเหตุห้ามทุกคนเข้าไป
เมื่อทราบที่มาที่ไปของเหตุการณ์แล้ว เจ้าหน้าที่จึงจับตัวพระเวินใส่กุญแจมือไปโรงพัก ส่วนพระสีสะหวันก็ถูกเชิญไปให้ปากคำเป็นเวลาสองชั่วโมง
จึงอนุญาติให้กลับวัด ในขณะที่พระเวินนั้นต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรม
ข้อมูลเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นก็คือว่า พระเวินกับอาจารย์ชัยวัฒน์นั้นมีเรื่องระหองระแหงกันมาตลอดเป็นเวลา 2-3 ปีแล้ว
โดยพระเวินมักจะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในห้อง ไม่พูดไม่สุงสิงกับใคร ถึงเวลาก็มาฉันเพลบ้างทำวัดสวดมนต์บ้าง มีงานก็มาช่วยงาน
แต่พอเสร็จแล้วก็มักจะเข้าห้องและเก็บตัวเงียบ และมีอาการทางประสาทวันดีคือดีก็มาก็กองทรายโห่ร้องปรบไม้ปรบมือรอบกองทราย
ในช่วงเทียงคืน และอาการอื่น ๆ ซึ่งก็ได้มีการพาไปบำบัดรักษาและทานยาอยู่เนื่อง ๆ จนเมื่อในช่วงต้นปีที่ผ่านมาพระเวินมีอาการหนักขึ้น
เก็บตัวอยู่ในห้องทั้งวันทั้งคืน และออกมาหุงหาอาหารฉันเฉพาะช่วงหลังเที่ยงคืนไปแล้วจากนั้นก็เข้าห้องวัน ๆ แทบไม่มีใครได้พบได้เห็น
เป็นเวลานานนับเดือน ทางคณะกรรมการจึงให้นำตัวไปบำบัดอีกครั้งโดยไปพบหมอบำบัดทางจิตทุกวันอังคาร ซึ่งอาจารย์ชัยวัฒน์เป็นผู้พาไป
ระยะหลังจึงมีการดีขึ้นและออกมาฉันเพลและทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันบ้าง
จนมาถึงเช้าวันเกิดเหตุ (วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2555) พระเวินและอาจารย์ชัยวัฒน์มีปากเสียงทะเลาะกระทบกระทั่งกัน
ถึงขั้นขับไล่ใสส่งว่า …เมื่อไหร่มึงจะหนีให้พ้นจากวัดกูซะที…แต่ก็ไม่มีการลงไม้ลงมือกัน
จนกระทั่งได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นหลังจากนั้นต่อมา คือก่อนที่จะฉันเพล…
ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากพระเวินได้ทำการฆาตกรรมพระอาจารย์ชัยวัฒน์แล้ว ก็ไปสรงน้ำชำระร่างกาย ล้างทำความสะอาดไม้ตีพริก
และเช็ดเลือดบริเวณห้องครัว จากนั้นก็ฉันเพลและเข้าไปอยู่ในห้องพักของตนตามปกติ ไม่มีอาการตื่นตระหนกหวาดกลัว หรือหลบหนีใด ๆ
จนกระทั้งเจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวไป
พระสงฆ์วัดวิมุตตยารามซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 2 ชั่วโมง ได้ทราบข่าวจากญาติโญมที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุในขณะเพิ่งฉันเพลเสร็จ
จึงได้รายงานไปยังคณะสงฆ์ในระแวกใกล้เคียง อาทิเช่น วัดฟลอริด้าพุทธาราม วัดมลคงรัตนาราม ฟอร์ท วัลตัล บีช รวมถึงแจ้งให้ญาติโยมได้รับทราบ
และเดินทางไปยังทีเกิดเหตุ ถึงเวลาประมาณบ่าย 3 โมง แต่ไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ จึงรออยู่ภายนอกและสอบถามข้อมูลจากญาติโญมที่มาดูเหตุการณ์
ได้ทราบว่าร่างของผู้ตายนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำออกไปแล้ว และผู้กระทำความผิดก็ถูกควบคุมตัวไปสักสองสามชั่วโมงก่อนนั้น
คอยอยู่ประมาณสามสิบนาทีเจ้าหน้าที่จึงอนุญาติให้เข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ ภาพแรกที่ปรากฎคือกองเลือดสองกองบริเวณภายในศาลาหน้าพระประธาน
และรอยเลือดกระเด็นไปทั่วบริเวณ จึงได้บันทึกภาพไว้ จากนั้นคณะกรรมการจึงให้เรื้อพรมและเก็บทุกอย่างที่มีคราบเลือดติดไปเผาทำลาย
ทำความสะอาดแล้วจัดเตรียมสถานที่เพื่อทำพิธีสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลให้ผู้ตาย
ซึ่งมีคณะสงฆ์ที่ทราบข่าวแล้วเดินทางมาได้แก่ วัดวิมุตตยาราม นิวออร์ลีนส์ นำโดยพระอาจารย์ชำนาญ ญาณวุฑฺฒิ พระมหาวิริยะ ปัญญาวชิโร พระภัชระ พระมานะ,
วัดฟลอริด้าพุทธาราม นำโดยพระอาจารย์วัลลภ นุชถาวโร พระอาจารย์ทองพูน พระอาจารย์พิสิษฐ์,
วัดมงคลรัตนาร่าม ฟอร์ท วัลตัน บีช นำโดยพระอาจารย์ณันมนัส พระอาจารย์ดำรงค์ พระอาจารย์
ในเบื้องต้นทางคณะกรรมการได้มติว่า ให้สวดพระอภิธรรม 3 วัน คือตั้งแต่วันที่ 11-13 พฤษภาคม 2555
โดยมีกำหนดการเบื้องต้นคือ ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ทุกวัน และสวดพระอภิธรรมในเวลา 17.30 น.
ซึ่งในวันแรกนั้นคณะสงฆ์ดังกล่าวข้างต้นได้ร่วมกันสวดทั้งหมดรวม 13 รูป
และในวันอาทิตย์ที่ 13 จะทำพิธีตักบาตร บังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย
ส่วนศพของผู้ตายนั้นอยู่ในกระบวนการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งต้องรอจนกว่าจะได้ความแน่นอนชัดเจนแล้ว
ทางคณะกรรมการจึงจะปรึกษาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
ในกรณีของญาติพี่น้องนั้น เบื้องต้นทางคณะกรรมการได้แจ้งให้ทราบแล้ว
และทางญาติที่เมืองไทยประสงค์จะให้ทางวัดออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาร่วมงาน
และรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทย แต่เมื่อคณะกรรมการปรึกษากันเบื้องต้นแล้ว
เห็นว่าคงดำเนินการให้ตามที่ร้องขอไม่ได้ และอาจจะจัดทำพิธีที่นี้ให้แล้วเสร็จแล้วส่งเพียงเถ้ากระดูกกลับไป
แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้
ส่วนคณะสงฆ์วัดวิมุตตยาราม วัดฟลอริด้าพุทธาราม วัดมลคลรัตนาราม รับเป็นธุระให้ในด้านพิธีทางศาสนาและให้คำปรึกษา
พร้อมทั้งจะเดินทางไปร่วมงานและสวดอภิธรรมทุกคืน
กระผมพระมหาวิริยะ ปัญญาวชิโร
วัดวิมุตตยาราม นิวออร์ลีนส์ หลุยส์เซียร์น่า
รายงานข่าวเมื่อเวลา ตี 1:50 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม 2555
หลังจากอยู่ร่วมพิธีจนแล้วเสร็จและเดินทางกลับมาถึงวัดเมื่อเวลาเที่ยงคืน
และจะเดินทางไปประจำคอยประสานงานอยู่ที่วัดพุทธรักษาจนเสร็จงาน
และคอยรายงานความคืบหน้าให้ทางคณะสงฆ์ทราบ